คลังเก็บป้ายกำกับ: ปั่นฟรีคิกพลิกไอเดีย

น้ำลด หนังสือผุด

คลอดแล้วครับ หนังสือเล่มใหม่ ในชื่อ ปั่นฟรีคิกพลิกไอเดีย
เล่มนี้เจอแรงเสียดทานมากหน่อย โดยเฉพาะน้องน้ำที่ทำให้กว่าจะฝ่าออกจากโรงพิมพ์ไปส่งที่อมรินทร์ได้ ก็ใช้เวลามากโข
วันนี้ขอเอาคำนำสำนักพิมพ์ มาเรียกน้ำย่อยกันครับ อ่านเพิ่มเติม น้ำลด หนังสือผุด

อุ่นเครื่อง-คำนิยมโดยคุณหน่อง

หลังจากที่เคี่ยวเข็ญ เพื่อให้ทันลงเล่นในทัวร์นาเมนท์ใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่พร้อมครับ
เมื่อไม่พร้อม ก็ไม่ต้องฝืน เพราะถ้าขืนลงเล่นในสภาพไม่สมบูรณ์ 100% มีหวังบาดเจ็บเพิ่มแน่ๆ
เลยต้องใช้แผนสองครับ นั่นคือเลื่อนการวางแผงฯ ออกไปอีกหน่อยนึง ซึ่งเวลาที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงเงินเดือนออกในรอบต่อไป
ใช่แล้วครับ ประมาณช่วงต้นเดือนพฤษภาคม น่าจะได้ยลโฉมกัน
ระหว่างนี้ ขออุ่นเครื่องอีกหน่อย ด้วยคำนิยมจากคุณหน่อง แห่ง interiorsiam.com

>>

ครึ่งแรก
ผมเข้าใจว่า ‘นายขลุกขลิก’ กับผมนั้นเป็นคนพันธุ์เดียวกัน
คือเป็นมนุษย์จำพวกชอบความเจ็บปวด และมีความอดทนสูง เพราะเราเป็น The Kop เหมือนกัน (ฮา)

เป็น The Kop ในยุคทศวรรษที่โชครุ่งเรืองไม่ค่อยเข้าข้างพระเอกกันซักเท่าไหร่นัก
เป็นแฟนหงส์ต้องก้มหน้า(ต่ำ)เอียงองศาเล็กน้อยกัดฟันพูดเพื่อปลอบใจกันและกันว่า “เป็นแฟนหงส์ต้องอดทน” (ฮาอีก)

อาจจะด้วยเพราะความเก็บกดและอดทนแบบแฟนหงส์อันนี้หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ
แต่ผมเดาเอาเองจากความรู้สึกส่วนตัวลึกๆของหนุ่มหน้ามนคนความรู้สึกเดียวกันว่า เมื่ออัดอั้นแล้วก็อยากระบาย

ถ้าเป็นเยี่ยงนั้น เป็นอย่างที่ผมเดา(เอง) ผมก็จะไม่แปลกใจเลยที่หนังสือไอเดียธุรกิจเล่มที่สองเล่มนี้ของ ‘นายขลุกขลิก’ จึงได้มีเรื่องราวเปรียบเทียบและผูกโยงให้เข้าหากันระหว่าง ‘ฟุตบอล’ อันเป็นของรักและเรื่อง ‘ไอเดียธุรกิจ’ อันเป็นของหวานที่เขาถนัดและพบเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันโดยสัมมาอาชีพ

พักครึ่ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ครึ่งหลัง
ผมเชื่อว่าถ้าคุณๆลองได้อ่านหน้าในนับถัดจากหน้านี้เป็นต้นไป อาจจะรู้สึกได้เหมือนๆกันกับผมว่า เรากำลังนั่งดูบอลอยู่บนอัฒจันทร์ หูสองข้างนั้นกระดิกรับเรื่องราวไอเดียธุรกิจที่เข้ายุคแบบไม่น่าเบื่อ ในขณะที่ตาสองตานั้น เปิดรับภาพเทคติกและลีลาของเกมส์ฟุตบอลที่สัมผัสได้สนุกเช่นกัน แม้แต่การพูดคุยวางแผนเกมส์กันภายในห้องแต่งตัว นายขลุกขลิกเขาช่างเอามาเปรียบเปรยให้เข้าใจและเห็นภาพ
นั้นคือเสน่ห์และการออกแบบสำหรับการเล่าเรื่องที่ยังไม่มีให้เห็นในหนังสือเกี่ยวกับไอเดียธุรกิจเล่มไหนๆ
เป็นการผสมผสานให้เข้ากันได้แบบกลมกล่อมทั้งเนื้อหาและลีลา แฮ่มม..อย่างกับสไตล์บอล Pass & Move ของเครื่องจักรสีแดงเสียนี้กระไร

จะหมดเวลาแล้วครับ ช่วงท้ายเกมส์นี้ผมขออนุญาติเพียงแค่นี้แค่พองาม
ขอกลับไปฝึก ‘ปั่น’ และลูบ ‘เป้า’ บ้าง`เช่นกัน

ทดเวลาบาดเจ็บ
ขอขอบคุณ ‘นายขลุกขลิก’ ที่ได้ให้เกียรติผมอีกครั้ง ตั้งแต่เล่มแรก “จิบความคิด สะกิดไอเดีย” เมื่อปีที่แล้ว
และเล่มที่สองในปีนี้กับ “ปั่นฟรีคิก พลิกไอเดีย”
และที่สำคัญต้องขอขอบคุณกับช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ทดแล้วทดอีกให้ผมได้หายใจหายคอออกไปอีกสี่ห้าวัน ในการเขียนคำนิยม (ฮาตบท้าย)

สิริชัย สิทธิสันต์

<<

ขอบคุณ คุณหน่อง ที่ให้เกียรติช่วยเจิมหนังสือเป็นเล่มที่สอง และต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ที่ผมเร่งเวลาไปหน่อย

อุ่นเครื่อง-คำนิยมโดยคุณนาน่า

ระหว่างที่หนังสือยังไม่เรียบร้อยจากแท่นพิมพ์
ผมขอเอาคำนิยม มาลงเป็นการอุ่นเครื่องกันไปก่อน
เชิญติดตามรับชมรับอ่านได้ตามอัธยาศรัย ได้ ณ บัดนี้ (แหม่! เกริ่นเหมือนลิเกเลยครับ)

>>

ทันทีที่ต้นฉบับหนังสือเล่มนี้มาถึงมือ พร้อมกับการรับรู้ว่าเป็นหนังสือแนวธุรกิจแต่เล่าผ่านมุมมองฟุตบอล ก็เกิดภาวะ “เกร็ง” ขึ้นมานิดๆ ตามประสาผู้หญิงที่ตลอดชีวิต (กี่ปีไม่ระบุ) ได้สัมผัสกับฟุตบอลน้อยมากกก… ที่เฉียดไปใกล้สุดๆ ก็ตอนที่เดินผ่านริมสนามแล้วลูกฟุตบอลเจ้ากรรมพุ่งมาฟาดที่ใบหน้า (สวยๆ) โดยบังเอิญก็แค่นั้น!!!

แต่ก็ใช้เวลาตัดสินใจแค่แว๊บเดียวเท่านั้นก่อนรับต้นฉบับมาอ่าน เนื่องจากยังจดจำความรู้สึกสนุก ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่กับหนังสือ “จิบความคิด สะกิดไอเดีย” ของนายขลุกขลิกได้เป็นอย่างดี และเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า แม้เราจะไม่ค่อยได้รู้เรื่องฟุตบอลอะไรเลย ส่วนงานด้านการตลาดเราก็ยังอยู่ในระดับบ้านๆ แต่มันจะต้องสนุกและให้ความคิด มุมมองดีๆ แก่เราอีกแน่ๆ และเมื่ออ่านไปอ่านมารู้สึกว่าเป็นหนังสือให้ความรู้สองทางได้อย่างกลมกลืน รู้เรื่องกติกา การจัดการทีมฟุตบอลด้วย รู้เรื่องธุรกิจและการจัดการธุรกิจด้วย ช่างเป็นคอนเซปการเขียนหนังสือที่กล้านำเสนอ และท้าทายตลาดหนังสือยุคนี้เสียจริง

สำหรับทุกท่าน ที่ขณะนี้ถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือและกำลังเกิดคำถามเล็กๆว่า ชั้นไม่เก่งการตลาด ธุรกิจ อะไรเลย จะอ่านเข้าใจไหม? ขอตอบว่า นอกจากจะเข้าใจแล้วยังเพลินสุดๆ เพราะมันช่างต่างกับหนังสือการตลาดแบบวิชาการที่เคยเจอบนแผงหนังสือทั่วไป ที่ปกติเวลาอ่าน จะรู้สึกเหมือนมีครูไหวใจร้ายถือไม้เรียวชี้กระดาน แล้วเวลาเราอ่านไม่เข้าใจ ครูไหวก็ขยับแว่นจิกตาดุเข้าใส่ แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้คุณจะรู้สึกเหมือนพี่แบ็คแฮม จูงมือคุณวิ่งเล่นไปในตึกทำงาน (อืม..ถ้าคุณเป็นผู้ชายคงต้องใช้คำว่า กอดคอ คงจะเหมาะกว่านะคะ) พร้อมแนะนำแบบกันเอง ถึงเทคนิคง่ายๆ ในการคุมเกมธุรกิจในมือ พร้อมหาจังหวะ หรือ มุมยิงประตูบริษัทคู่แข่งในตลาดได้อย่างสวยงาม

แล้วถ้าชั้นไม่เคยรู้เรื่องฟุตบอลเลย จะอ่านเพลินเหมือนคนอื่นไหม? ก็ขอตอบอีกว่า “เพลินมาก” ค่ะ แถมยังได้ข้อมูลไปคุยกับหนุ่มๆ เพื่อสร้างมูลค่าตัวเองในวงสนทนาได้สุดๆ ถ้าไม่ถือว่าโอเวอร์จนเกินไป อยากจะยกให้เป็นหนังสือแก้ปัญหาครอบครัวให้กับหนุ่มๆ ผู้รักการเชียร์ฟุตบอลแต่ไม่รู้จะอธิบายความสนุกให้สาวข้างกายรู้เรื่องได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์นี้ได้แน่นอน แต่หากกลัวว่าสาวข้างกายอ่านแล้วจะหลงใหลได้ปลื้มไปกับ สำนวนอารมณ์ดี ชวนยิ้มให้กับทุกเรื่อง(ที่ดูเหมือนเข้าใจยาก) บนโลกใบนี้ ก็โปรดอ่านเสียเอง แล้วเอาเทคนิค ลีลาการเล่านี้ไปถ่ายทอดให้คุณผู้หญิงฟัง น่าจะทำแต้มได้ดีกว่านะคะ

วรงค์ชนก เทียมทินกฤต
editor at diaryclub.com

<<

ขอบคุณ คุณนาน่า ที่ให้เกียรติช่วยเจิมหนังสือเล่มล่าสุด