ความสุขกับความสำเร็จ อะไรมาก่อนกัน
แวบแรกผมก็ตอบว่าเป็น ความสำเร็จ
คิดแบบนี้เชียร์กีฬา เมื่อทีมชนะ เราจะมีความสุข
คุยกับเพื่อนๆก็ได้คำตอบในทางเดียวกัน
ยิ่งถ้าถามคนรุ่นก่อน ชาว Gen Baby Boom จะได้คำตอบชัดเจนมาก
“ลื้อต้องมีความอดทน มันจึงจะสำเร็จ
แล้วพอลื้อประสบความสำเร็จ ลื้อจึงจะมีความสุข”
สูตรความสุข จึงกลายเป็น
ความทุกข์(ในวันนี้) ทำให้สุข(ในวันข้างหน้า)
หากเทียบความสุขกับความสำเร็จ
เป็นโลกกับพระจันทร์ ที่มีแรงดึงดูดระหว่างกัน
คน Gen Baby Boom เชื่อว่า
โลกคือความสำเร็จ
และพระจันทร์คือความสุข (ที่โคจรรอบโลก)
แต่การวิจัยของ Shawn Achor ที่ใช้เวลาเก็บข้อมูลกว่า 12 ปี กลับเฉลยความจริงที่แตกต่างออกไป
เขาพบว่า แท้จริงแล้ว
โลกคือความสุข
พระจันทร์คือความสำเร็จ
คนที่มีความสุข จะทำให้งานประสบความสำเร็จได้ดีกว่า คนไม่มีความสุข
นั่นเพราะคนที่มีความสุข จะมีมุมมองต่อปัญหา ที่ต่างจากคนมีความทุกข์
เมื่อเจอปัญหา คนมีความสุข ระบบสมองส่วนอะมิกดาลา จะสั่งการแตกกต่างจากคนที่เป็นทุกข์
อีกทั้งคนมีความสุขจะมีความคิดสร้างสรรค์ดีกว่าด้วย
ถึงตรงนี้ทำให้ผมฉุกคิด
มิน่า! บางวันที่ไม่เครียดมาก ไม่ยุ่งมาก หรือได้ไปนั่งทำงานในร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ สมองลื่นไหลคิดงานออก
แต่ช่วงระดมสมองในห้องประชุม กลับตื้อๆ คิดงานไม่ออก
สอดคล้องกับผลวิจัยของ Gallup พบว่า บริษัทที่พนักงานมีความผูกพันสูง จะมีผลประกอบการที่ดีกว่าบริษัทที่พนักงานมีความผูกพันต่ำ
การบริหารงานให้พนักงานมีความสุขจึงเป็นเทรนด์การบริหารบุคคลยุคใหม่ ที่ธุรกิจต้องเผชิญปัญหาหลายด้าน
บริษัทที่พนักงานมีทัศนคติเชิงบวก จะช่วยองค์กรฟันฝ่าอุปสรรคไปได้
หลักการง่ายๆหากบริษัทให้ความสำคัญกับความสุขพนักงาน พนักงานก็จะคิดสร้างสรรค์งานใหม่
อยู่ในบริษัทก็ไม่ใช้คำพูดเชิงลบ บรรยากาศการทำงานก็จะดี
แค่ไม่มัวแต่นินทาบริษัทก็ประหยัดเวลาได้เยอะเลยครับ
อ้างอิงข้อมูล : หนังสือ The Happiness Advantage, Shawn Achor.